พรีเวดดิ้ง...ที่ไหน...กับใคร...อย่างไร....ปัญหาโลกแตก?

หลายๆท่านอาจจะประสบปัญหากับการเลือกร้าน ช่างภาพและ แพคเกจพรีเวดดิ้ง โดยไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไรดี สตูดิโอและช่างภาพที่ให้บริการถ่ายภาพพรีเวดดิ้งก็มีเยอะแยะเต็มไปหมด แถมมาพร้อมแพคเกจและข้อเสนอมากมาย ดูจนตาลายก็ยังตัดสินใจไม่ได้สักที ร้านนี้ราคาเท่านี้ ร้านนั้นแถมไอ้นั่น นู่น นี่ สถานที่ไกล้ ไกล.....โอ๊ยยยยสารพัดตัวเลือก

ถ้าท่านกำลังประสบพบพานกับปัญหาเหล่านี้อยู่ละก็ ไม่ต้องกลุ้มใจไปครับ วันนี้เรามีเกล็ดเล็กๆน้อยๆในการช่วยให้ท่านตัดสินใจได้ง่ายขึ้นมาแชร์

เลือกอย่างไรล่ะ?

ก่อนที่เราจะตกลงปลงใจไปซื้อแพคเกจต่างๆเราควรต้องคิดถึงข้อเปรียบได้เปรียบต่างเหล่านี้ก่อน

1. ดูที่ผลงานเป็นหลัก

เป้าหมายในการถ่ายพรีเวดดิ้ง อะไรสำคัญที่สุด ใช่แล้วครับ ท่านต้องการถ่ายพรีเวดดิ้งไปทำไม ไม่ได้กวนนะครับแต่เป็นเรื่องที่เราอาจลืมและมองข้ามไปได้ง่ายครับ เดี่ยวนี้ร้านถ่ายพรีเวดดิ้งเกลื่อนกลาด มีให้เลือกมากมาย มีตั้งแต่ราคาหลักพันยันหลักแสน แพคเกจก็มีมากมายตั้งแต่แถมรูปอัดใส่กรอบให้ 3 รูปยันแถมคอนโดขนาดสองห้องนอนพร้อมบริการอาบน้ำน้องหมาให้ฟรีอีกสองเดือน (ว่าไปนั่น)  สำหรับผมหลักๆเลยก็คือ "คุณภาพของงาน" ครับ ในเมื่อเราซื้อ "บริการการถ่ายภาพ" ดังนั้นสินค้าหลักที่สำคัญที่สุดก็คือ "ภาพถ่ายที่ได้ "ครับ ยกตัวอย่างเหมือนท่านซื้อบ้านแล้วเค้าแถมโทรศัพท์มาให้ ระหว่างโครงการ A กับโครงการ B ท่านจะตัดสินใจซื้อบ้านหลังนึงในโครงการใดๆเนี่ยก็คงต้องตัดสินใจที่ว่า ตัวบ้านเป็นอย่างไร คุณถาพของวัสดุดีมั้ย แบบบ้านสวยมั้ย  แต่คงไม่ใช่เพราะโครงการนี้แถมโทรศัพท์ยี่ห้อนี้ใช่ไหมล่ะครับ การเลือกร้านบริการพรีเวดดิ้งก็เช่นกันครับ ขอแนะนำให้เลือกที่ภาพถ่ายเป็นหลัก คำว่าภาพถ่ายที่สวย มีคุณภาพนี่ไม่จำเป็นว่าจะต้องถ่ายด้วยกล้องและเลนส์แพงโคตรๆ ถ่ายถูกต้องตามหลักวิชาการเป๊ะๆหรอกครับ มันไม่มีกฎว่าภาพสวยต้องเป็นอย่างไร ภาพที่สวยก็คือภาพที่สวยครับ เลือกร้านและช่างภาพที่คุณอยากให้ถ่ายพรีเวดดิ้งให้จากผลงานของเค้าครับ ความทรงจำของเหตุการณืที่สำคัญในชีวิตขนาดนี้ ต้องเลือกที่คุณภาพเท่านั้นครับ กลับไปถ่ายใหม่ไม่ได้แล้วครับ

2. Search..Search..Search.. ทำการบ้านเยอะๆ

ช่างภาพและร้านต่างๆก็มีมากมายซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีเวบไซต์แสดงภาพผลงานต่างๆให้ดูมากมาย ซึ่งก็มีสไตล์ที่แตกต่างกันไปครับ นอกเหนือจากสไตล์ที่แตกต่างกันแล้วราคาก็ยังแตกต่างกันอีกด้วย ไหนก็จะมีรีวิวตามเวบไซต์หรือ forum ต่างๆอีกด้วย มันช่างเยอะแยะเสียเหลือเกิน ทำยังไงดีนะ?   ต้องเดินหน้าอย่างเดียวครับการ search หาข้อมูลแล้วทำการเปรียบเทียบข้อด้อยข้อเด่นของผู้ให้บริการถ่ายภาพถือเป็นขั้นตอนสำคัญอย่างหนึ่งที่เดียวครับ ทั้งนี้ยิ่งหาข้อมูลมากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ข้อดีของการหาข้อมูลเยอะๆก็พอจะสรุปได้ดังนี้ครับ   1) ทำให้ได้เจอและรู้จักกับร้านและช่างภาพพรีเวดดิ้งที่มากขึ้นในวงกว้าง และมีทางเลือกที่มากขึ้นนั่นเอง  2) ได้เห็นผลงานและสไตล์การถ่ายรูปที่หลากหลายไม่จำเจและท่านก็จะเจอกับสไตล์ที่ตอบโจทย์ตรงกับใจท่านมากที่สุด  3) ได้เห็นข้อเปรียบได้เปรียบต่างในแต่ละร้านแต่ละที่ว่าเป็นอย่างไร

กระบวนการนี้เป็นกระบวนการที่ต้องใช้ความพยายามและความอดทนพอสมควรครับ เพื่อให้เจอกับช่างภาพที่มีผลงานและสไตล์ที่ถูกใจเรารวมถึงราคาที่เราพอใจด้วยครับ

3. ราคา

แน่นอนครับการเลือกสินค้าหรือบริการใดๆก็แล้วแต่ ถ้าไม่พูดถึงราคาก็ถือว่ายังไม่ไครบถ้วนกระบวนความแน่นอนครับ แต่ละคู่แต่ละท่าน ก็คงตั้งงบเอาไว้ด้วยช่วงราคาที่แตกต่างกันตามแต่ความพอใจว่าท่านยินดีจะจ่ายเท่าไหร่ เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญครับเพราะมีผลกระทบทางการเงินและใครๆก็คงไม่อยากเสียเงินไปแล้วได้สินค้าหรือบริการที่ไม่คุ้มค่าใช่ไหมล่ะครับ

ก่อนอื่นคงต้องนิยามคำว่า "แพง"หรือ "ไม่แพง" ก่อนครับ สำหรับผมเนี่ยของแพงคือของที่ผู้ซื้อมองว่าคุณค่าของมันไม่คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป  ของราคาสูงกว่าไม่ได้แปลว่าแพงกว่านะครับต้องคิดดีๆครับ ของบางอย่างอาจจะราคาต่ำกว่าก็จริงแต่ใช้ได้แป๊บเดียวก็พังเสื่อมสภาพ ในขณะที่อีกยี่ห้อหนึ่งราคาสูงกว่าแต่ คุณภาพดีกส่า ทนทานกว่าใช้งานได้นานกว่า เมื่อคิดถึงระยะยาวแล้วว์้อของที่ราคาถูกว่ากลับเปลืองเงินกว่าเพราพังเร็วกว่า ต้องเปลี่ยนบ่อยกว่า ราคามันก็เป็นไปตามคุณภาพและต้นทุนของมันครับ ของที่ดีๆทำด้วยวัสดุดีๆมันก็มีต้นทุนแพงกว่า จะให้มาขายถูกกว่าสก็เห็นจะเป็นไปไม่ได้ครับ   ย้อนนกลับมาในแง่ของงานบริการถ่ายภาพก็เช่นกัน คนที่มีฝีมือถ่ายทอดผลงานออกมาได้สวยงามก็ต้องมีราคาที่เหมาะสม เพราะเค้าทำออกมาได้ดีไม่เหมือนใคร คุณจ่ายเงินเพื่อซื้อิ talent ซื้อความสามารถของเค้าครับ ข้อนี้จะย้อนกลับไปที่ข้อหนึ่งครับ แพงหรือไม่แพง "ดูที่ผลงานครับ" อย่าไปคิดว่าร้านนี้แถมชุด แถมรูป แถมนั่นนู่นนี่ อย่าลืมครับท่านจ่ายเงินเพื่อเพื่อให้ได้ "ไฟล์ภาพถ่ายที่มีคุณภาพ" ครับท่านจะเอาไปปรินท์เองอีกกี่ครั้งก็ได้ครับ แต่ถ้ารูปที่ไม่สวย ปรินท์ฟรีอีกกี่ครั้งก็ไม่สวยครับ ดังนั้นแพงหรือไม่แพงเนี่ย อย่าได้มองว่าท่านได้อะไรแถมมาบ้างเป็นหลักครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องว่ารูปแบบไหน แนวไหนสวยกว่ากันท่านต้องตัดสินใจเองครับ ช่างภาพแต่ละท่านแต่ละสตูดิโอก็มีจุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกันไป อันนี้ขึ้นอยู่กับว่าลูกค้าชอบแบบไหนละครับ  ราคาถูกสุดๆแล้วคุณภาพดีสุดๆไม่มีหรอกครับของแบบนี้มีแต่ราคาสมเหตุสมผลกับคุณภาพครับ

4. สไตล์

ท่านต้องมองหาว่าท่านชอบรูปในสไตล์แบบไหนครับ และช่างภาพท่านใดทีทมีสไตล์ที่ท่านชอบอยู่ อันนี้เป็นฟีลลิ่งล้วนๆครับ บางท่านอาจจะชอบภาพพรีเวดดิ้งแบบแต่งเยอะๆจัดหนักๆออกแนว surreal มีคอนทราสเยอะๆดูคล้ายๆกับภาพ HDR บางท่านอาจจะชอบถ่ายถาพออกแนวเป็นธรรมชาติ ไม่แต่งภาพเยอะ บางคนชอบแนวแคนดิด บางคนชอบแบบโพสเยอะๆ เดี๋ยวนี้ก็มีแนงวินเทจ พาสเทล ฮิปสเตอร์ เว่อวังมากมายเลยครับ ดังนั้นหากค้นหาทำการบ้านดีๆแล้วล่ะก็ท่านก็จะได้ภาพที่ออกมามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครแน่นอนครับ

5. ชื่อเสียงและ feedback

การรีวิวและบอกต่อๆกันในแง่ของผลงานและการบริการนั้นก็มีผลสำคัญในการตัดสินใจทีเดียวครับ ร้านไหนบริการดีเป็นกันเอง ไม่กดดัน ไม่พยายาม upsale ลูกค้ามากทั้งผลงานก็สวยแปลกใหม่ไม่เหมือนใครก็จะมีผลตอบรับที่ดีมีชื่อเสียงในทางที่ดีและก็จะมีลูกค้าที่แนะนำบอกต่อกันมาเรื่อยๆ  สำหรับท่านลูกค้าที่กำลังมองหาร้านถ่ายพรีเวดดิ้งอยู่แล้วละก็การอ่านรีวิว feedback ประกอบกับผลงานที่ทางร้านโชว์ในเวบไซต์ก็น่าจะช่วยให่ท่านตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้สำหรับร้ายหรือช่างภาพที่เพิ่งเริ่มเข้าสู่ธุรกิจนี้ใหม่ๆก็อาจจะยังไม่มีรีวิวหรือ feedback ตรงนี้มากนัก ก็คงต้องมีการโทรไปสอบถามพูดคุย ขอดูผลงานเพิ่มเติมประกอบกับที่โชว์ในเวบไซต์เพื่อช่วยในการตัดสินใจให้ดีขึ้นครับ 

การหาร้านและช่างภาพพรีเวดดดิ้งที่ถูกใจ มีฝีมือและราคาสมเหตุสมผล อาจเป็นงานที่เหนื่อยและใช้เวลาพอสมควรครับ หากว่าท่านได้ลองนำเคล็ดข้างต้นไปปฎิบัติแล้วละก็ผมว่าการหาช่างภาพพรีเวดดิ้งที่ถูกใจคงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

Love is Simply Beautiful