ShutterShout 0011: The biggest ship I've ever been...
Today is not about Pre-wedding, but is still fun.
สวัสดีครับ พบกับ PhruksaphopSPhotography อีกครั้ง แล้วนะครับ หลังจากที่ได้อัพเดตเรื่องราวต่างๆที่น่าสนใจเกี่ยวกับ เรื่องของ เวดดิ้ง (Wedding) พรีเวดดิ้ง (Pre-wedding) การถ่ายพรีเวดดิ้งตามสถานที่ต่างๆ (Destination Pre-wedding) และการถ่ายภาพท่องเที่ยวและเดินทาง (Travel Photography) ไปนิดหน่อยให้เป็นข้อมูลเล็กๆน้อยๆบ้าง วันนี้เราก็จะมาพูดเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องการ เวดดิ้ง หรือ พรีเวดดิ้ง แต่อย่างใดครับ หลังจากที่ทำงานกันมานาน วันนี้ขอพูดเรื่องเบาสมอง พักผ่อนๆ กันบ้างดีกว่า
พอดีผมได้มีโอกาสไปเที่ยวในเรือสำราญ (แวะไปดูแค่วันเดียวครับ ไม่ได้ไปล่องกับเขาหรอก อิอิ) ที่พี่เขยทำงานอยู่ครับ พอดีเรือนี้มาเทียบท่าที่ระยองพอดีเลย พวกเราก็เลยถือโอกาสไปเจอกับเค้าและแวะเที่ยวพร้อมกันทั้งครอบครัวเลยครับ วันนั้นเป็นวันอาทิตย์มี่เรือมาจอดเทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังครับ เพื่อทำการเติม อาหารน้ำและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่จะต้องใช้ในการเดินเรือช่วงต่อๆไป ซึ่งพี่เขยผมนั้นเป็น Logistic Manager ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่พอดี เค้าเลยอาสาจะพาเราเดินเข้าไปเยี่ยมชมส่วนต่างๆภายในเรือ
ด้วยความตื่นเต้นครับผมก็ออกจากบ้านกันแต่เช้าเลยกะว่าขับรถไปถึงที่ท่าเรือน่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง (เผื่อหลงอีกด้วย) แล้วก็โชคดีเจอแจ็คพอตจริงๆด้วยครับ วันนั้นรถติดมากเพราะกำลังทำถนนอยู่ด้วยทำให้การเดินทางของเราล่าช้าลงไปอีกมากครับ แต่ก็ยังไปถึงที่ทางเข้าท่าเรือประมาณ 10 โมงเช้า เพิ่งจะเคยเข้ามาในแถบนี้เป็นครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจว่าท่าเรือนี่พื้นที่มันใหญ่จริงๆครับ มีทางเข้าและประตูไปยังแต่ละท่า ต่างกันไปมากมายถ้าดูไม่ดีนี่มีหลงแน่นอนครับ
มาถึงที่หน้าทางเข้าของท่าเทียบเรือที่พี่เขยอยู่แล้ว หลังจากจอดรถก็ยังเข้าไปไม่ได้ครับ ต้องรอให้มีเจ้าหน้าที่มารับเข้าไปอีกทีนึงหลังจากได้มีการยืนยันเรียบร้อยแล้วว่าเราเป็นบุคคลที่ได้ทำเรื่องขออนุญาเข้ามาแล้ว (ก่อนจะมาต้องส่งหลักฐานสำเนา passport มาให้ทางเจ้าหน้าที่ล่วงหน้า หนึ่งอาทิตย์ครับ) หลังจากที่เจ้าหน้ามารับเข้าไปยังท่าที่เรือจอดเทียบอยู่พี่เขยก็เป็นผู้รับหน้าที่พาไปต่อครับ แลกบัตรและลงทะเบียนที่ทางเข้าเรือแล้วก็ออกลุยกันเลย
เดินเข้าเรือไปแล้ว ก็เริ่มออกเดินกันเลยครับ ผ่านจุดสนใจต่างๆมากมายเช่นร้านขายของที่มีตั้งแต่ เครื่องเพชร น้ำหอม เครื่องสำอางหรือกระเป๋าแบรนด์เนมต่างๆ เลยไปอีกหน่อยก็เป็นโชนของคาสิโน ที่มีตั้งแต่ตู้หยอดเหรียญไปจนถึงโต๊ะโปกเกอร์กันเลยทีเดียว เราก็ชมกันไปเรื่อยๆครับ จนมาออกที่ห้องโถงขนาดสองชั้นที่เป็น ห้องอาหารสุดหรูของเรือครับ แขกที่จะมาทานอาหารที่นี่ก็ต้องแต่งตัว เรียบร้อยอารมณืแบบไปงานชุดราตรีอะไรอย่างงั้นครับไม่งั้นเข่ามาทานไม่ได้ แถมต้องเสียเงินค่าอาหารต่างหากด้วย แน่นอนครับหากอยากจะทานฟรีโดยไม่ต้องเสียเงอนเพิ่มก็ต้องขึ้นไปทานตรงแคนทีนที่เป็นแบบบัฟเฟต์ข้างบนครับ ที่นี่นั้นทานได้เกือบตลอดเวลา แน่นอนครับหิวแล้วด้วยก็จะรออะไรครับ จัดหนักๆไปเลยครับ อาหารก็ถือว่าค่อนข้างหลากหลายเลยทีเดียวครับ มีทั้งที่เป็นฝั่งตะวันตกไปจนถึงแบบเอเชียน ทั้งญี่ปุ่น จีน ก็เลือกกินกันได้ตามใจชอบเลยครับ นี่ถ้ามาเที่ยวกับเรือจริงๆนี่สงสัยวันๆผมคงกินๆและก็นอนๆ วนๆไปมาอยู่แบบนี้ละครับ เพลินมากๆ
หลักจากสวาปามเสร็จเราก็ออกเดินไปชมส่วนต่างๆของเรือกันอีกนิดหน่อยครับ คราวนี้เดินไปดูโรงหนังครับ เรียกว่าเอาใจคอหนังกันน่าดูถึงจะอยู่กลางทะเลก็มีหนังให้ดูอยู่ดีครับ นอกจากหนังฮอลิวูดแล้วก็ยังมี Theatre ที่มีการโชว์ทำอาหารโดยเชฟประจำเรือครับ แต่วันที่ผมไปนี่ไม่มีการแสดงครับ อดดูเลย
เดินกันเพลินๆไปเลยครับ จนในที่สุดก็ถึงเวลาบ่ายสองโมงแล้ว พวกเราก็ต้องเตรียมออกจากเรือแล้วล่ะครับ เพราะว่าเค้าก็ลังจะเตรียมการออกเรือและรอรับผู้โดยสารที่ออกไปเที่ยวในวันนั้นให้กลับขึ้นเรือและเดินทางไปยังจุดหมายต่อๆไปครับ พวกเราก็ร่ำลากันและก็ออกเดินกลับบ้านของเราครับ
เป็นทริปสั้นๆแต่ก็ได้เห็นอะไรแปลกๆใหม่ๆดีครับ ไม่เคยได้ขึ้นเรือใหญ่ๆขนาดนี่สักที นี่ขนาดว่าไม่ได้เป็นเรือที่ขนาดใหญ่ที่สุดนะครับ พี่เขยบอกว่ามีใหญ่กว่านี้อีก ผมก็คงต้องรอโอกาสหน้าละครับถ้าโชดคดีก็คงจะได้ขึ้นไปลยโฉมกับเค้าบ้างครับ หรือถ้าหากมีลูกค้าท่านใดอยากถ่าย เวดดิ้ง (Wedding) หรือ พรีเวดดิ้ง (Pre-wedding) บนเรือสำราญอย่างนี้ละก็รีบบอกเลยครับ ผมพร้อมอยู่แล้ว 555